Huawei เปิดตัว MatePad Pro หน้าจอ 2K พร้อมปากกาและคีย์บอร์ด ราคาเริ่มต้นหมื่นกลางๆ

Huawei เปิดตัว MatePad Pro หน้าจอ 2K พร้อมปากกาและคีย์บอร์ด ราคาเริ่มต้นหมื่นกลางๆ

ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่แท็ปเล็ตของหัวเว่ยจะอยู่ภายใต้ซีรี่ส์ของ MediaPad แต่ล่าสุดหัวเวยก็พลิกโฉมอีกครั้งด้วยการปาระกาศเปิดตัวแท็ปเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ Huawei MatePad Pro. ถือเป็นการเริ่มสักราชใหม่สำหรับในตลาดแท็ปเล็ตโลก และเพื่อต่อกรกับเจ้าอื่นๆ แน่นอนหัวเว่ยต้องใส่สเปคมาแบบจัดเต็ม ซึ่งจุดที่ดูเหมือนจะเด่นที่สุดใน Huawei MatePad Pro คงจะเป็นเรื่องของหน้าจอ ที่มาด้วยขนาด 10.8 นิ้ว ความละเอียด 2K QHD 2560×1600 พิกเซล(289 PPI).

ใช้ชิพเซ็ตเป็น Kirin 990 พร้อมหน่วยความจำ RAM 6/8GB และ ROM 128/256GB. 

แบตเตอรี่ให้มา 7250mAh รองรับชาร์จไว 40 วัตต์ และ Wireless charging 15 วัตต์. นอกจากนี้ยังมี reverse wireless charging สามารถชาร์จไฟให้เครื่องอื่นได้แบบไร้สายอีกด้วย. Huawei MatePad Pro มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงที่ f/1.8 และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงที่ f/2.0. ในส่วนของซอฟท์แวร์ MatePad Pro  รันบนระบบปฏิบติการ EMUI 10 (Android 10) รองรับ GPU Turbo 3 เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมส์ที่เหนือชั้น.

ในส่วนของอุปกรณ์เสริม MatePad Pro มาพร้อมคีย์บอร์คที่ใช้ Blurtooth ในการเชื่อมต่อและชาร์จไฟแบบ wireless, เสริมด้วยปากกา M-Pen. โดยทั้งสองอุปกรณ์เสริมนี้จะขายแยก ไม่แถมมาในกล่อง.

Huawei MediaPad Pro มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศจีนวันที่ 12 ธันวาคม ในรุ่นทั่วไป และรุ่นที่เป็นหนัง(Vegan Leather) จะออกวางจำหน่ายในวันที่ 25 ธันวาคม. นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่รองรับ 5G ที่คาดว่าจะเปิดวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020.

Xiaomi Mi 9T Pro หนึ่งในรุ่นสมาร์ทโฟนเรือธงจากตชค่ายที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากในช่วงนี้ ด้วยสเปคที่จัดเต็ม หน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว FHD+ (403 ppi) ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล รองรับ HDR ทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 สุดแกร่ง ทั้งหน้าและหลัง. สัดส่วนหน้าจอเป็น 19.5:9, อัตราส่วนหน้าจอที่ 86.1% พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ.

ขุมพลังที่ใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 855 ซีพียู Octa-core 2.84GHz, ชิพแระมวลผลกราฟฟิคเป็น Adreno 640 ภายใตด้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบด้วย MIUI 10  พร้อม Mi Turbo และ Game Turbe เพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่า. หน่วยความจำ RAM 4/8GB แบบ LPDDR4 พร้อมความจุสามขนาด 64/128/256GB.

Mi 9T Pro มาพร้อม AI Triple Camera เซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล f/1.7, เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4  พร้อม 2x optical zoom และ 10x digital zoom. เลนส์ ultra-wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.4. กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ƒ/2.2 พร้อมโหมดต่างๆมาหมายทั้ง Palm shutter, Age recognition, AI Beautify และอีกมากมาย

เอาใจสายพาวเวอร์ยูสเซอร์ด้วยแบตเตอรี่ 4,000mAh พร้อมรองรับเทคโนดลยีชาร์จไวสูงสุด 27 วัตต์ ให้คุณสามารถชาร์จได้ 58% ในเวลาเพียง 30 นาที.

Vivo NEX 3 เรือธงสเปคแรง Snap855+ แรม 8GB, จอไร้ขอบ กล้อง 64 ล้านฯ

Vivo NEX 3 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมคุณสมบัติและสเปคระดับเรือธง ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอแบบ Waterfall Display ขนาด 6.89 นิ้ว แบบจอโค้งแบบไร้ขอบทั้งสองด้า มีเพียงขอบบนและล่างที่บางเฉียบ มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 99.6% พร้อมระบบความปลอดภัยสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

Vivo NEX 3 นอกจากจะมีดีไซน์การออกแบบที่ให้รอให้ขอบแล้ว ยังเป็นมือถือรุ่นแรกๆที่ไม่มีปุ่มกดใดๆเลย โดย Vivo ใส่เทคโนโลยีที่เรียกว่า Touch Sense เข้ามา ให้คุณสัมผัสบริเวณขอบหน้าจอแทนปุ่มจริง อีกทั้งยังมี X-Axis Haptic Vibration Motor มอเตอร์ที่จะทำหน้าที่สั่นบริเวณที่คุณกด ให้ความรู้สึกสมจริงและล้ำไปอีก

สเปคภายใน Vivo NEX 3 มาพร้อมกับชิพประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 855+ 7 นาโนเมตร octa-core ชิพประมวลผลกราฟฟิคหรือ GPU เป็น Adreno 640 พร้อม RAM  8GB และหน่วยความจำเครื่อง 128GB สูงสุดถึง 256GB แบบ UFS3.0 พร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 4500mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน C-DRX

นวัตกรรมชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge ขนาด 22.5 วัตต์ แบบพอร์ต USB-C นอกจากนี้ยังมี VCAP เทคโนโลยีที่จะช่วยเพอื่ความเร็วในการทำงานของ AI ให้อุปกรณ์ของคุณทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมชิพเสียง AK4377A Hi Fi ที่จะให้ประสบการณ์การฟังเพลงของคุณสบูรณ์แบบไปอีกขั้น

อีกหนึ่งจุดเด่นใน Vivo NEX 3 คือเรื่องของกล้องแบบ Triple Camera มีเซ็นเซอร์หลักเป็น Samsung GW1 ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิเซล F1.8 เซ็นเซอร์ตัวที่ 2 เป็น Telephoto 13 ล้านพิกเซล F2.5 พร้อมซูม 2 เท่า แบบ Optical Zoom เซ็นเซอร์ตัวที่ 3 เป็น Ultra wide-angle: 13 ล้านพิกเซล F2.2 ให้มุมองศาการถ่ายกว้างถึง 120 องศา พร้อม Macro Mode  ถ่ายภาพระยะใกล้สุดๆถึง 2.5 เซ็นติเมตร พร้อม Portrait Mode และ Night Mode. ส่วนของกล้องหน้าเป็นแบบ Pop-Up ที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมค่า F2.1

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น