Tesla เปิดตัวกระบะไฟฟ้า Cybertruck รูปทรงแปลกตา ทั้งแกร่งและแรง

Tesla เปิดตัวกระบะไฟฟ้า Cybertruck รูปทรงแปลกตา ทั้งแกร่งและแรง

Tesla ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า เปิดตัว Cybertruck รถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของทางค่ายและถือว่าเป็นกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของดลกเลยกว่าได้. โดยเจ้า Cybertruck นี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 เวอร์ชั่น ที่มีระยะการวิ่งที่แตกต่างกันไป มีทั้ง 250 ไมล์, 300w ไมล์ และ 500 ไมล์ โดยมีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ $39,900 เหรียญฯ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท. แต่ Cybertruck จะเริ่มเปิดสายการผลิตจริงในช่วงปลายปี 2021 แต่ลู๔กค้าสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ก่อนที่เว็ปไซต์ของ Tesla.

โดยรถ Cybertruck ทั้ง 3 รุ่นั้นประกอบไปด้วย

รุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง น้ำหนัก 7,500 ปอนด์  ทำความเร็ว 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 6.5 วินาที ทำระยะวิ่งได้ 250 ไมล์ ราคาอยู่ที่ $39,900 เหรียญฯ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท.

รุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ น้ำหนัก 10,000 ปอนด์ ทำความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 4.5 วินาที ทำระยะวิ่งได้ 300 ไมล์ ราคาอยู่ที่ $49,900. เหรียญฯ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท

รุ่นสามมอเตอร์ ขับเคลื่อนสี่ล้อ น้ำหนัก 14,000 ปอนด์ ทำความเร็ว 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 2.9 วินาที ทำระยะวิ่งได้ 500 ไมล์ ราคาอยู่ที่  $69,900. เหรียญฯ หรือประมาณ 2.1 ล้านบาท

ตัวรถมาในดีไซน์ที่ค่อนข้างดูแปลกตา ในลักษณะเป็นเหลี่ยม 4 ประตู ดูคล้ายรถคอนเซ็ปต์มากกว่า โดยทาง Tesla บอกว่า ตัวรถทำมาจาก stainless steel ที่มีความแข็งแกร่งกว่าปกติ 30 เท่า สามารถกันกระสุนได้อีกด้วย.

ในงานเปิดตัว Elon Musk ได้มีการสาธิตให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกระจกที่เป็นกระจกกันกระสุน โดยการให้ Franz von Holzhausen หัวหน้าฝ่ายดีไซน์ ได้มาทดลองปาลูกเหล็กขนาดประมาณเท่าลูกเปตอง ปรากฏว่า ปาไปแล้ว กระจำกลับแตก ซะงั้น. นึกว่าเป็นแค่ความผิดพลาดทางเทคนิคเท่านั้น แต่ลองปาสองครั้ง ก็แตกทั้งสองครั้ง. งานนี้เลานเอาขายหน้ากันไปพอสมควร แต่ Musk จึงบอกไปว่า “เดี๋ยวเราแก้ไขให้ทีหลัง”

เอาใจคนชอบถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซลที่ค่า f/1.8 ให้ภาพความละเอียดสูง มาพร้อมเลนส์กว้างแบบ Ultrawide ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่า f/2.25 ระยะเลนส์ที่ 13มม. 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และ depth sensor 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ถ่ายวีดีโอได้สูงสุดที่ 4K@30fps พร้อม Ultra Night Mode 2.0. กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่า f/2.0 พร้อมเอาใจสาวๆที่ชอบเซลฟี่ด้วย AI Beauty 2.0 บันทึกวีดีโอได้สูงสุดที่ 1080P/720P@30fps.

Oppo A9 2020 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000mAh ให้คุณใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด. อีกทั้งยังสามารถแปลงร่างเป็นพาวเวอร์แบงค์ ชาร์จไฟให้เครื่องอื่นได้ด้วยเทคโนโลยี Reverse charging.

สัญญาณดี! Microsoft ได้ใบอนุญาตค้าขายกับ Huawei แล้ว

ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์รายใหญ่อย่าง Microsoft เผยว่าได้มีการยื่นคำขอต่อรัฐบาลสหรัฐเพื่อให้มีการออกในอนุญาตทำการค้าขายกับหัวเว่ย.​ ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้มีการเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้มีการรับคำร้องของ Microsoft แล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษจิกายนที่ผ่านมาแลำกำลังอยู่ในขั้นตอนการออกใบอนุญาต.

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงภานิชน์ของสหรัฐฯได้มีการออกมายืนยันว่ากำลังอยู่ในขั้นจตอนการพิจารณาออกใบอนุญาตสำหรับบริษัทบางบริษัทในการทำการค้าขายกับหัวเว่ย. แย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการยืนยันว่าสินค้าที่ว่านี้เป็นสินค้าประเภทอะไร. บางแหล่งข้อมูลเผยว่า ใบอนุญติ

มีรายงานว่า กว่า 300 คำร้องถูกยื่นไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงตอนนี้เพียงครึ่งของคำร้องที่ยื่นไปที่ได้รับการอนุมัติ และมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ตรวจสอบและอาจถูกปฏิเสธไป.

เหมือนว่าอะไรหลายๆอย่างเริ่มจะเป็นใจให้ Huawei กลับเข้ามาอยู่ในเกมอีกครั้ง ตั้งแต่การยืดเวลาเพิ่มให้อีก 90 วัน ตลอดจนถึงการที่รัฐบาลสหรัฐออกใบอนุญาตให้ Microsoft ซึ่งเป็นวัญญาณที่ดีสำหรับหัวเว่ยจริงๆ.

Huawei ประกาศเตรียมเปิดตัวามาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ ซึ่งหลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นตระกูล P40. ว่าที่สามาร์ทโฟนรุ่นต่อไปจะยังคงรันด้วยระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจาก  Android 10 พร้อมทับด้วย EMUI 10 และ Huawei Mobile Services. แน่นอนว่า ว่าที่เรือธงรุ่นต่อไป จะยังคงไร้ซึ่ง Google Services.

จากคำบอกเล่นของ Richard Yu CEO หัวเว่ยบอกว่า ว่าที่เรือธงรุ่นต่อไปจะมาพร้อมดีไซน์ที่คุณไม่เคนเห็นที่ไหนมาก่อน และความล้ำหน้าของเทคโนโลยีของกล้อง, พร้อมชิพเซ็ตที่น่าจะเป็นและแบตเตอรี่ที่เหนือกว่า

พูดถึงชิพเซ็ต คาดว่าใน P40 จะมาพร้อมชิพเซ็ต Kirin 990 5G  ขณะที่ Kirin 1020 ที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้าที่ คาดว่าน่าจะถูกแพ็กมาในเรือธงตระกูล Mate.

ถึงตอนนี้ Huawei Mate 30 Pro พร้อม Huawei Mobile Services  รุกตลาดยุโรปแล้วอย่างเป็นทางการ แต่ทว่ายังคงมีข้อจำกัด โดยเฉพาะในเรื่องของความหลากหลายของแอ้พพลิเคชั่น. ถึงตอนนี้หัวเว่ยยังคงมีเวลาเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้เหล่า Developer ผู้พัฒนาแอ้พพลิเคชั่นทั้งหลายหันมาเริ่มผลิตแอ้พให้กับ Huawei Mobile Services เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้หัวเว่ยในอนาคตจะได้ใช้แอ้พที่มีคุณภาพและขีดความสามารถเท่าเทียมกับแอ้พจาก Google Play Store.

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น